ทัวร์อิตาลี

ทัวร์อิตาลี - NATNARA TRAVEL FRANCHISE
รหัสทัวร์
008-80882
วันที่เดินทาง
ต.ค.67 - ธ.ค.67
ช่วงเวลา
7 วัน 5 คืน
เดินทางโดย
Emirates (EK)

ไฮไลท์

  • มิลาน - เวโรน่า - เวนิส -ปาร์มา
  • ลา สเปเซีย - ปิซ่า - ฟลอเร้นซ์ - โรม

เลือกวันเดินทาง

วันเดินทางไป - กลับ ผู้ใหญ่ท่านละ พักเดี่ยวเพิ่มเงิน ราคาเด็กท่านละ
01 ธ.ค. 67 - 07 ธ.ค. 6799,999 บาท12,900 บาทสอบถามเพิ่มเติมจอง
01 ธ.ค. 67 - 07 ธ.ค. 6799,999 บาท12,900 บาทสอบถามเพิ่มเติมจอง
ราคาเริ่มต้น
95,999 บาท

แผนการเดินทาง

07.00 น.    พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 10 ROW U  เคาน์เตอร์สายการบินเอมิเรตส์ (EK) โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกแก่ทุกท่าน

09.55 น.    ออกเดินทางสู่ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยเที่ยวบินที่ EK375   **บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง**

13.00 น.    เดินทางถึง สนามบินนานาชาติดูไบ (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 3 ชั่วโมง) ให้ท่านผ่อนคลายอริยบทระหว่างรอเวลาเปลี่ยนเครื่อง

15.45 น.    ออกเดินทางสู่ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี โดยสายการบินฟินแอร์ เที่ยวบินที่  EK091   **บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง**

20.30 น.    เดินทางถึง ท่าอากาศยานมิลาโนมัลเปนซา มิลาน ประเทศอิตาลี นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อย (เวลาท้องถิ่นของประเทศอิตาลีช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง)

ที่พัก          NH Milano Fiera หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน

เช้า     บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

เดินทางเข้าสู่ ตัวเมืองแห่งแฟชั่น เมืองมิลาน (MILAN) พาท่านถ่ายรูปบริเวณด้านหน้า มหาวิหารมิลาน (DUOMO DI MILANO ) หนึ่งในโบสถ์ศริสต์สถาปัตยกรรมกอธิคที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภายใน วิหารเชื่อกันว่ามีการบรรจุหมุดตรึงไม้กางเขนของจริงที่ใช้ในการประหารชีวิตพระเยซู บริเวณด้านหน้าตกแต่งด้วยรูปสลักหินอ่อนที่วิจิตรเป็นอย่างยิ่ง ให้ท่านได้เพลิดเพลินกับช้อปปิ้งมอลล์ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหน่ึงของยุโรปที่ กัลเลรีอาวิตโตรีโยเอมานูเอเลเซ คอนโด (Galleria Vittorio Emanuele II) ที่อัดแน่นไปด้วย แบรนด์ชั้นนำระดับโลก ที่บางแบรนด์นั้นก็ยังถือ กำเนิด ณ เมืองแห่งนี้ อาทิ Prada, Versace, Armani, Dolce & Gabbana, Valentino รวมไปถึงแบรนด์เนมที่คุ้นหู อีกมากมายอย่าง Gucci, LOUIS VUITTON, Swarovski

เที่ยง      บริการอาหาร ณ ภัตตาคารท้องถิ่น แบบบุฟเฟ่ต์

เดินทางสู่ เมืองเวโรน่า (VENORA) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง เมืองเวโรน่ายังได้ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมขององค์การยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ.2000 อีกทั้งวิลเลียม เชกสเปียร์ นักกวีและนักเขียนบทละครชาวอังกฤษ ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ของอังกฤษและของโลกยังใช้บรรยากาศและเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวสองตระกูลในเวโรน่า แต่งเป็นละครโศกนาฎกรรมขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1595 เรื่องโรมิโอกับจูเลียต

นำท่านถ่ายรูปด้านนอกกับ บ้านเลขที่ 23 ของจูเลียต JULIET’S HOUSE ชมระเบียงแห่งเรื่องราว โรแมนติกที่จูเลียตเฝ้ารอคอยพบโรมิโอทุกค่ำคืน และบริเวณหน้าบ้านยังมีรูปปั้นสำริดขนาดเท่าตัวจริงของจูเลียต จากนั้น นำท่านเดินทางสู่ เวนิส เมสเตร้ (VENICE MESTRE) ฝั่งแผ่นดินใหญ่ของเวนิส ประตูสู่ราชินีแห่งแอนเดรียติก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง

ค่ำ        บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

ที่พัก     Hotel Novotel Venezia Mestre Castellana หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน

เช้า     บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือตรอนเคตโต้ (TRONCHETTO) นำท่านล่องเรือผ่านชมบ้านเรือนของชาวเวนิส สู่เกาะเวนิสหรือเวเนเซีย(VENEZIA) ดินแดนแสนโรแมนติก เป็นเมืองที่ไม่เหมือนใคร โดยใช้เรือแทนรถ ใช้คลองแทนถนน มีสมญานามว่าเป็น “ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก” มีเกาะน้อยใหญ่กว่า 118 เกาะ และมีสะพานเชื่อมถึงกันกว่า 400 แห่ง ขึ้นฝั่งที่บริเวณ ซานมาร์โค ศูนย์กลางของเกาะเวนิส

นำท่านถ่ายรูปบริเวณจัตุรัสเซ็นท์ มาร์ค (St.Mark’s Square) ที่จักรพรรดินโปเลียนยกย่องว่าเป็นห้องรับแขกที่สวยที่สุดของยุโรป และยังเป็นที่ตั้งของ มหาวิหารซันมาร์โก(San Marco Basillica) มหาวิหารประจำเขตอัครบิดรเวนิส สร้างขึ้นในแบบสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์ซึ่งหาได้ยากในปัจจุบัน เนื่องจากถูกทำลายไปเกือบหมดสิ้นในครั้งที่ออกโตมันเข้ายึด ซึ่งภายในโบสถ์นั้นจะมีภาพโมเสกบอกเล่าเรื่องราวในครั้งนั้นอยู่ โดยเซ็นท์มาร์โกถือว่าเป็นนักบวชที่สำคัญในการเผยแพร่ศาสนาในสมัยศตวรรษที่ 5 สำหรับตัวมหาวิหารจะเชื่อมกับ พระราชวังดอร์จ(Doge’s Palace) พระราชวังแบบเวนิส-โกธิคที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ประทับของยุคแห่งเวนิสครั้งที่เมืองนี้ยังเป็น สาธารณะรัฐเวนิส ก่อนได้รับการปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์และเปิดอย่างเป็นทางการในปี 1923 และยังมี หอระฆังซันมาร์โก (St Mark’s Campanile) หอระฆังสูง 98.6 เมตร โดยอิงการสร้างจากรูปแบบเดิมในปี 1514 และพังทลายลงในปี 1902 ไม่ไกลกันจะเป็นที่ตั้งของ สะพานถอนหายใจ (Bridge of Sighs) สะพานซุ้มโค้งที่เชื่อมระหว่างพระราชวังดอร์ดและเรือนจำ

**หมายเหตุ ทั้งนี้ไม่รวมค่านั่งเรือกอนโดล่า หากท่านสนใจนั่งเรือกอนโดล่า สามารถแจ้งทางหัวหน้าทัวร์เพื่อประสานงานให้ได้ ทั้งนี้ไม่แนะนำให้ท่านติดต่อกับเรือเองเพื่อความปลอดภัยของท่านเนื่องจากอาจมีมิจฉาชีพแอบแฝงตัวมา

เที่ยง      บริการอาหาร ณ ภัตตาคาท้องถิ่น พิเศษให้ท่านได้ทานสปาเกตตี้เส้นหมึกแบบเวนิส

นำท่านเดินทางกลับสู่ฝั่งแผ่นดินใหญ่ VENICE MESTRE  เพื่อเดินทางสู่ เมืองปาร์ม่า ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง หนึ่งในเมืองที่เก่าแก่และมั่งคั่งของอิตาลี และเป็นต้นกำเนิดของพาร์เมซานชีส ที่ชาวอิตาเลี่ยนนิยมทานและโด่งดังไปทั่วโลก พาทุกท่านเดินเล่น ชมด้านหน้า วิหารแห่งปาร์ม่า (Parma Cathedral) เป็นวิหารประจำจัตุรัส Piazza Duomo สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่พระแม่มารี ถัดมาคือ หอพิธีศีลจุ่ม (Baptistery of Parma) อาคารทางแปดเหลี่ยมสีชมพูอ่อน ที่สร้างด้วยหินอ่อนเวโรนา ถือเป็นตัวอย่างที่โดดเด่นที่สุดของการเปลี่ยนจากศิลปะโรมาเนสก์ไปเป็นศิลปะกอทิกในอิตาลี ปัจจุบันใช้เป็นสถานที่สำหรับทพิธีศีลจุ่ม ซึ่งพิธีที่สำคัญที่สุดของชาวคริสต์

นำทุกท่านเดินทางสู่ เมืองลา สเปเซีย (Spezia) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง ที่นี่เป็นหนึ่งในท่าเรือทางการทหารและการค้าหลัก มีชื่อเสียงหลักจาก เส้นทางรถไฟ ที่ทุกคนรู้จักกันดีในชื่อ ชิงเคว แตร์เร ที่เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังของอิตาลี

ค่ำ         บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคารจีน

ที่พัก      Hotel Galilei หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน

เช้า     บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นําท่านนั่งรถไฟสู่ ชิงเกว แตร์เร (Cinque Terre) ชมหมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณริมชายฝั่งริเวียร่า ที่มีความหมายว่า “ดินแดนทั้งห้า (Five Land)” ตั้งบนหน้าผาสูงชันเหนือทะเลเมดิเตอร์เรเนียนติดทะเลบริเวณชายฝั่งแคว้นลิกูเรีย ประกอบด้วยหมู่บ้าน 5 แห่ง ได้แก่ MONTEROSSO AL MARE, VERNAZZA, CORNIGLIA, MANAROLA และ RIOMAGGIORE โดยทั้งห้าหมู่บ้านนี้ มีหุบเขาล้อมรอบ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้

พิเศษสุด ! พาท่านขึ้นรถไฟชม 2 หมู่บ้านที่เข้าถึงง่ายและสวยงาม นั่นคือ มานาโรร่า (Manarola) หมู่บ้านที่เป็นดั่งหน้าปกโปรโมทหมู่บ้านมรดกโลกแห่งนี้ เพราะมักจะเป็นหมู่บ้านแรกๆ ที่คนจะนึกถึง ด้วยภาพลักษณ์จุดเด่นของวิวบ้านเรือนหลากสีสันตั้งลดหลั่นกันตามแนวหน้าผาตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าอมเขียว งดงามเป็นอย่างยิ่ง จากนั้นพาท่านเยือนอีก 1 หมู่บ้าน นั่นคือ ริโอมัจจอร์เร (Riomaggiore) ซึ่งตั้งอยู่ถัดจากมานาโรร่าไปเพียงเล็กน้อย เป็นหมู่บ้านที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของ ชิงเคว แทร์เร มีร้านรวงต่างๆ ตั้งเรียงรายตลอด ไม่ว่าจะเป็นร้านขายของ Hand made เสื้อผ้า ของที่ระลึก ร้านอาหาร รวมไปถึงเจลลาโต้ ไอศกรีมไขมันต่ำต้นตำหรับจากแดนพาสต้าแห่งนี้

เที่ยง      บริการอาหาร ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

เดินทางสู่ เมืองปิซ่า (Pisa) ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. นำท่านเข้าชม จัตุรัสเปียซซา เดล ดูโอโม (PIAZZA DEL DUOMO) ศาสนสถานที่สำคัญที่สุดของเมือง ซึ่งจัตุรัสแห่งนี้จะประกอบไปด้วย หอศีลจุ่ม วิหาร และหอระฆัง ซึ่งที่นี่มีหอระฆังที่โด่งดังระดับโลก นั้นคือ หอระฆังเอน แห่งเมืองปิซ่า (รวม ค่ารถบัสไปยังหอ)

นำท่านชมบริเวณรอบหอระฆังแห่งนี้พร้อมเก็บรูปเป็นที่ระลึกกับ หอเอนเมืองปีซ่า ( LEANING TOWER OF PISA ) หอระฆังทรงกระบอก 8 ชั้น  โดยเอกลักษณ์และสาเหตุที่ทำให้หอระฆังแห่งนี้ได้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกนั้นคือการที่ตัวอาคารมีลักษณะเอียงไปทางเหนือประมาณ 3.97 องศา เริ่มสร้างในปี 1174 แต่เมื่อสร้างขึ้นไปเพียง 3 ชั้น ฐานอาคารก็เกิดการทรุดตัวลง เนื่องจากเนื้อดินในบริเวณนี้ไม่มีชั้นหินแทรก ประกอบกับตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำอาร์โน ทำให้ดินมีความชื้นและเหลวกว่าปกติ จนทำให้ต้องยุติการก่อสร้างไปกว่า 94 ปี จนกระทั่งปี 1272 สถาปนิกนาม จีโอวานี ดี ซีโมเน่ (Giovanni di Simone) ได้มาสานต่อด้วยเทคนิคการสร้างให้เพดานไม่เท่ากันเพื่อรักษาอาหารให้สมดุล แต่ก็ต้องยุติการก่อสร้างในปี 1284 จากภัยสงคราม ก่อนชั้นที่ 7 ของอาคารจะเสร็จในปี 1319 และตัวหอระฆังถูกเติมจนเสร็จสิ้นเมื่อปี 1372 นับเป็นเวลาร่วม 199 ปี นับจากวันที่เริ่มสร้าง โดยตัวอาคารเคยเอียงมากสุดถึง 5.5 องศา ในปี 1990

นำท่านเดินทางสู่ เมืองปราโต (Prato) มีพื้นฐานมาจากอุตสาหกรรมสิ่งทอ ประกอบด้วยบริษัทแฟชั่นประมาณ 7,000 แห่ง ก่อนหน้านี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของฟลอเรนซ์ และในปี 1992 แต่ด้วยการเติบโตทางเศรษฐกิจและการเพิ่มขึ้นของจำนวนคน ทำให้ปราโตได้กลายเป็นเมืองหลวงของจังหวัดที่มีชื่อเดียวกัน

ค่ำ      รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

ที่พัก   Miro Hotel หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน

เช้า     บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม


เดินทางสู่ เมืองฟลอเร้นซ์ (FLORENCE )  เมืองที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอิตาลี และเมืองหลวงของยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ เป็นเมืองซึ่งเป็นที่ถือกำเนิดของจิตรกรระดับโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น มีเกลันเจโล ลีโอนาโด ดาวินชี่ ราฟาเอล ซานตี และอีกมากมาย พาท่านถ่ายรูปมุมสูงของเมืองที่ จัตุรัสมิเกลลันเจลโล่ (Piazzale Michelangelo) ซึ่งถือว่าเป็น 1 ในมุมที่ดีที่สุดที่จะได้เห็นทัศนียภาพแบบพาโนราม่า บนนี้ท่านจะสามารถเห็นกลุ่มอาคารสำคัญๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นมหาวิหารฟลอเรนซ์ สะพานเวคคิโอ พระราชวังปิติ และยังเป็นที่ตั้งของรูปปั้นเดวิดจำลองอีกด้วย

นำท่านชมชมความยิ่งใหญ่และอลังการของ มหาวิหารซานตา มาเรีย เดล ฟิโอเร (Santa Maria Dell Fiore) วิหารของเมืองฟลอเรนซ์ ที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของทวีปยุโรป ซึ่งโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่ใช้หินอ่อนหลายสีตกแต่งผสมผสานกันได้อย่างงดงาม  นำชม จัตุรัสเดลลาซิญญอเรีย (Piazza Della Signoria) ซึ่งรายล้อมไปด้วยรูปปั้น อาทิ เช่น รูปปั้นเทพเจ้าเนปจูน (Fountain of Neptune), วีรบุรุษเปอร์ซิอุสถือหัวเมดูซ่า (Perseus with the Head of Medusa), รูปปั้นเดวิด ผลงานที่มีชื่อเสียงของ ไมเคิล แองเจโล่เป็นต้น

เที่ยง      รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคารจีน

นำท่านเดินทางสู่ศูนย์กลางการปกครองของอิตาลีที่ กรุงโรม (Rome) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม. เมืองหลวงของประเทศอิตาลี และเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรโรมันที่รุ่งเรืองถือเป็นรากฐานของสังคมและวัฒนธรรมของชาติยุโรป ไม่ว่าจะเป็น ปฏิทินตามหลักสุริยะคติ กฎหมาย การประชุมในสภาในรูปแบบสาธารณรัฐ เป็นต้น นำท่านแวะถ่ายภาพ บริเวณด้านนอก โคลอสเซี่ยม (COLOSSEUM)  หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า ฟราเวียนแอมฟิเธียเตอร์ อีก 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง ต้นแบบของสนามกีฬาของโลก เป็นแหล่งบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในโรมัน สร้างขึ้นในสมัยของจักพรรดิเวสปาเซียนในปี ค.ศ. 70 ก่อนเปิดอย่างเป็นทางการในอีก 10 ปีต่อมาในสมัยพระเจ้าไททัส เป็นสนามกีฬาที่จะเป็นการประชันการต่อสู่ระหว่างเหล่านักรบกลาดิเอเตอร์ด้วยกันเอง และกับสัตว์ดุร้าย เช่น สิงโต ช้าง แรด เป็นต้น โดยบ้างก็กล่าวกันว่าการต่อสู้ในโคลอสเซี่ยมทำให้สัตว์บางชนิดแทบจะศูนย์พันธุ์เลยทีเดียว การสร้างอาคารแบบอัฒจันทร์กลม 3 ชั้นขนาดใหญ่แห่งนี้ยังถือว่าเป็นการผลิตซีเมนต์แห่งแรกๆ ของโลกอีกด้วย

ค่ำ      รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคารท้องถิ่น พิเศษให้ท่านได้ทานพิซซ่าสไตล์อิตาเลี่ยนแท้

ที่พัก   Hotel Belstay Roma Aurelia หรือเทียบเท่าในระดับเดียวกัน

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านสู่ศูนย์กลางแห่งศาสนจักรนิกายโรมันคาทอลิก ที่ นครรัฐวาติกัน (State of the Vatican City) Highlight !!!! พาท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์วาติกัน (Vatican Museum) หนึ่งในสุดยอดที่รวบรวมโบราณวัตถุ ศิลปะจากทั่วทุกมุมโลกที่ทรงคุณค่า และยังมีงานศิลปะที่งดงามจากจิตกรเอกของโลกอย่าง มิเกลลันเจลโล ราฟาเดล บรามันเต้ โดยเฉพาะงานศิลปะที่ผนังและเพดานของโบสถ์น้อยซิสทีน (Sistine chapel) ที่เป็นภาพ The last judgment และ The Creation of human (ในกรณีมีพิธีด้านใน อาจจะไม่ได้รับการเข้าชม)

นำท่านเข้าชม มหาวิหารนักบุญปีเตอร์ ( ST. PETER’ BASILICA ) ศาสนสถานของคริสต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นที่ฝังพระศพของพระสันตะปาปาพระองค์แรกที่ถูกลงโทษประหารชีวิตด้วยการตรึงไม้กางเขนในสมัยของจักรพรรดิเนโร เมื่อปี ค.ศ. 68 ถือเป็นศูนย์รวมทั้งทางกายและทางใจของวาติกัน  โดยมหาวิหารแห่งนี้ได้สร้างทับวิหารหลังเดิมที่สร้างในสมัยศตวรรษที่ 4 ออกแบบโดยมีเกลันเจโลสุดยอดจิตกรร่วมสมัยกับดาวินชี่ ภายในถูกตกแต่งอย่างวิจิตรด้วยหินอ่อน โดยมีประติมากรรมชื่อก้องโลกอย่าง ปีเอต้า (Pietà) ซึ่งทำจากหินอ่อนเพียงก้อนเดียวและใช้เวลาในการแกะสลัก 7 ปี บริเวณด้านหน้าคือ จัตุรัสนักบุญปีเตอร์ (St. Peter's Square) ออกแบบโดย จาน ลอเรนโซ เบอร์นินี อีกหนึ่งประติมากรผู้ได้ฉายาว่า สามารถเสกหินอ่อนให้หายใจได้ จัตุรัสสามารถจุคนได้ประมาณ 60,000 คน ตรงกลางมีเสาโอบีสิสหินแกรนิตแดง สูง 25.5 เมตร จากอียิปต์ ซึ่งเป็นการแสดงถึงแสงยานุภาพของโรมันที่มีต่อประเทศในยุโรปและแถบเมดิเตอร์เรเนียนในขณะนั้น (ในกรณีมีพิธีด้านใน อาจจะไม่ได้รับการเข้าชม)

เที่ยง     รับประทานอาหาร ณ ภัตตาคารจีน

กลับสู่กรุงโรมนำท่านชมความงามของ น้ำพุเทรวี่ (TREVI  FOUNTAIN ) ที่มักกล่าวกันว่าเป็นน้ำพุที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งใน โลก นำท่านเดินชมและถ่ายรูปบริเวณ บันไดสเปน (SPANISH  STEPS ) บันไดที่กว้างที่สุดในยุโรป เชื่อมระหว่างจัตุรัสสปังนา กับโบสถ์ทรีนิตี้ นอกจากนั้นยังมีสินค้าแบรนด์เนมหลากหลายให้ท่านได้เลือกสรรค์อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น Gucci, Louis Vuitton, Prada, Longchamp, Chanel, DIOR, Balenciaga เป็นต้น แต่หากสนใจชิมกาแฟเอสเปรสโซ่ต้นตำหรับ ก็มีร้านกาแฟมากมายให้ท่านได้ลิ้มลอง

ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานเลโอนาร์โด ดา วินชี-ฟีอูมีชีโน (Aeroporto Leonardo da Vinci di Fiumicino) เพื่อให้ท่านได้มีเวลาทำการคืนภาษี (Tax Refund)

22.10 น.     ออกเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยสายการบินเอมิเร็ตส์ เที่ยวบินที่ EK096

**บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง **

05.50 น.     ถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ  (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 3 ชั่วโมง) ให้ท่านผ่อนคลายอริยบทระหว่างรอเวลาเปลี่ยนเครื่อง

09.00 น.     ออกเดินทางต่อสู่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย เที่ยวบินที่ EK370 **บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง**

18.25 น.    ถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ด้วยความประทับใจ

แผนที่

เงื่อนไข

** เพื่อความถูกต้อง กรุณาตรวจสอบข้อมูลเดินทางและเงื่อนไขการชำระเงินกับทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายทุกครั้ง
ราคาเริ่มต้น
95,999 บาท
รหัส 008-80882 ทัวร์อิตาลี
ระยะเวลา 7 วัน 5 คืน
ราคาเริ่มต้น 95,999 บาท
เดินทางช่วง ต.ค.67 - ธ.ค.67
เดินทางโดย Emirates (EK)
--------------------------------------
ดูเพิ่มเติม https://natnaratravel.com/tour.php?tour_id=7961
--------------------------------------
ไฟล์ PDF https://tourfiles.vm101.net/pdf/803/008-80882.pdf
--------------------------------------
สนใจติดต่อ NATNARA TRAVEL FRANCHISE
เลขที่ใบอนุญาต 12/02963
โทร 062-859-5241
LINE ID nat.nsk
อีเมล natnara.travel@gmail.com
คัดลอกข้อมูลทัวร์
เพิ่มในรายการโปรด
Share on social networks
Scan QRCode

โปรแกรมแนะนำ

เลขใบอนุญาต 12/02963
เลขใบอนุญาต 12/02963
เลขใบอนุญาต 12/02963
เลขใบอนุญาต 12/02963
ติดต่อสำนักงาน
NATNARA TRAVEL FRANCHISE
เลขที่ใบอนุญาต 12/02963

36/147 RK BIZ CENTER
ซอย 5 ถนนเลียบมอเตอร์เวย์ แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร 10520

จันทร์-เสาร์ 9:00-18:00
บริการของเรา
จัดกรุ๊ปส่วนตัว
ทัวร์ในประเทศ
ทัวร์ต่างประเทศ
Outing&Team Building
ท่องเที่ยวประจำปี
พาตัวแทนท่องเที่ยว
จัดงานแต่ง ทริปฮันนีมูน
ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า
LineID
Add LINE Friends via QR Code
ติดตามเรา
home
หน้าหลัก
quatation
ขอใบเสนอราคา
chat
ติดต่อเรา
ติดต่อ
chat ติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า
search ค้นหาโปรแกรมทัวร์
home หน้าหลัก
approval ขอใบเสนอราคา