ทัวร์ยุโรป อิตาลี-ออสเตรีย-เยอรมนี-สวิตเซอร์แลนด์

22:00 น. พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิอาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ทางเข้าที่ 8-9 สายการบินเอมิเรตส์ (EK) เจ้าหน้าที่จากบริษัทฯ จะคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกให้ท่านก่อนขึ้นเครื่อง

02:50 น. ออกเดินทางสู่ เมืองเวนิส (VENICE) ประเทศอิตาลีโดย สายการบินเอมิเรตส์เที่ยวบินที่ EK377/EK135 *แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินดูไบ 

13:25 น. เดินทางถึง สนามบินเวนิส (VENICE) ประเทศอิตาลีเมืองสุดโรแมนติกของเหล่าคู่รัก ตั้งอยู่ ณ แคว้นเวเนโต ประเทศอิตาลี อยู่ห่างออกไปในทะเลอเดรียติก เกิดจากการเชื่อมเกาะเล็กๆ จำนวน 118 เกาะและมีสะพานเชื่อมมากกว่า 400 แก่ง เป็นเมืองที่มีคลองมากที่สุดในโลกด้วยความสวยงามราวกับ เป็นภาพที่อยู่ในความฝันได้รับฉายามากมาย ไม่ว่าจะเป็นราชินีแห่งทะเลอเดรียติก (QUEEN OF THE ADRIATIC) เมืองแห่งสายน้ำ (CITY OF WATER) เมืองแห่งสะพาน (CITY OF BRIDGES) และเมืองแห่งแสงสว่าง (THE CITY OF LIGHT) และองค์กรยูเนสโกยกให้เมืองเวนิส เป็นหนึ่งในเมืองมรดกโลก  หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรเรียบร้อยแล้ว

   นำท่านเดินทางสู่ เกาะซานมาร์โค (SAN MARCO) โดยการนั่งเรือ ประมาณ 30 นาที ระหว่างทาท่านจะ ได้ ชมอนุสาวรีย์ของพระเจ้าวิคเตอร์เอมานูเอลที่ 2 บิดาของชาวอิตาเลี่ยน อิสระถ่ายภาพคู่กับสะพานถอนหายใจ ที่เชื่อมต่อระหว่าง DOGE PALACE ซึ่งเคยเป็นที่ประทับของเจ้าผู้ ครองนครเวนิสในอดีต อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางของการปกครองแคว้นในยุคสมัยนั้น... ชมจตุรัสเซนต์มาร์คโค ที่มีโบสถ์เซนต์มาร์คเป็นฉากหลังสร้างด้วยสถาปัตยกรรมไบแซนไทน์

   อิสระเลือกช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองของเวนิสตามอธัยาศัย เช่น เครื่องแก้วมูราโน ต้นตำรับของการเป่าแก้วของ ชาวมูราโน่ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะมาตั้งแต่บรรพชน โดยเครื่องแก้วแต่ละชิ้นมีรูปแบบและคุณภาพเป็นที่ ยอมรับจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก
หมายเหตุ : ล่องเรือกอนโดล่า  *ราคาไม่ได้รวมอยู่ในค่าทัวร์* (ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ในกรณีน้ำขึ้นสูงเกินไปและฝนไม่ตก ท่านสามารถแจ้งหัวหน้าทัวร์ ค่าเรือท่านละประมาณ 20.- ยูโร ซึ่งเรือที่ลำสามารถนั่งได้ 5-6 ท่าน)

ค่ำ (บริการ) รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก NH VENICE  หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม 


     นำท่านเดินทางข้ามพรมแดนสู่ อุทยานแห่งชาติในเขตเทือกเขาโดโลไมต์ (DOLOMITIES) (170 กม.) เขตทิโรลของประเทศอิตาลี แต่ความสวยงามของโดโลไมต์เป็นที่เลื่องลื่อซึ่งเป็นอุทยานแห่งชาติเพียงแห่งเดียวของ อิตาลีที่องค์กรยูเนสโก (UNESCO) รับรองให้เป็นมรดกโลดทางธรรมชาติ

     นำท่านเดินทางสู่ทะเลสาบมิซูลิน่า (MISURINA LAKE) ทะเลสาบที่หลบซ่อนตัวในหุบเขาที่ถือเป็นสถานที่ ท่องเที่ยวที่ส าคัญในส่วนของอุทยานแห่งชาติในเขตเทือกเขาโดโลไมต์   

   นำท่านเดินทางสู่ทะเลสาบเบรียส (LAKE BRAIES) (40 กม.) ไข่มุกเม็ดงามแห่งโดโลไมต์ ทะเลสาบน้ำสี เขียวแห่งนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า PRAGER WILDSEE ซึ่งทางองค์กรยูเนสโกจัดเป็นมรดกโลกทาง ธรรมชาติและติดอันดับทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก


เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร


  จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองโบลซาโน (BOLZANO) (40 กม.) เมืองใหญ่ในเขตเทือกเขาโดโลโมต์เมืองหลวงของ ภูมิภาคทีโรลใต้ (SOUTH TYROL) ซึ่งล้อมรอบด้วยแม่น้ำ ที่นี่แม่น้ำ TALVERA จะไหลลงไปในแม่น้ำ ISRACO และมารวมกันเป็นแม่น้ำ ADIGE เนินเขาที่เป็นป่าทุ่งหญ้า ไร่องุ่นและ เทือกเขา DOLOMITES ในทางทิศตะวันออกนั้นเหมาะกับการ พักผ่อนแบบผ่อนคลายอย่างยิ่ง เมืองโบลซาโนรู้จักกันทั่วไป เมื่อครั้งที่ NATIONAL GEOGRAPHIC ไปถ่ายท าสารคดี การค้นพบซาก มนุษย์ที่ฝั่งอยู่ใต้หิมะบนยอดเขาสูงในแคว้นทีโรลของออสเตรีย และนำร่างนั้นมาไว้ที่เมืองโบลซาโนเรียกกันว่ามนุษย์หิมะแห่งโบลซาโน ที่เป็น ข่าวไปทั่วโลก


ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก HOTEL BALZANO หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

   จากนั้นนำท่านเดินชมเมืองเก่า ชมวิหาร DUOMO โบสถ์ CHIESA DEI DOMENICAN และอนุสาวรีย์ที่จัตุรัส กลางเมือง PIAZZA DELLE ERBE แถบถนนคนเดิน PIAZZA WALTHER และย่านอาเขตโบลซาโน ให้ท่านได้เดินเล่นชมเมือง

 นำท่านเดินทางสู่ เมืองออร์ติเซ่ (ORTISEI) (100 กม.) ศูนย์กลางของการท่องเที่ยวในแถบอุทยานแห่งชาติใน เขตเทือกเขาโดโลไมต์เมืองรีสอร์ทเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในหุบเขา DOLOMITES VAL GARDENA โดยมี เทือกเขาต่างๆ อยู่รายล้อม เช่น SECEDA, RESCIESA, ALPE DI SIUSI, MONTE PIZ และ COL DE MESDI ฯลฯ .... อิสระเดินเล่นถ่ายรูปตามอัธยาศัย

   นำท่าน นั่งกระเช้าขึ้นสู่บนเนินเขาที่เรียกว่า ALPE DI SIUSI ....ชมวิว SECEDA เป็นจุดชมวิวที่พีคที่สุดของโดโล ไมต์เลยก็ว่าได้ ซึ่งจุดนี้จะเห็นยอดเนินคล้ายเปลวไฟที่แข็งเป็นหิน จึงมีคนตั้งสมยานามว่า FLAME FROZEN IN  STONE เป็นทุ่งหญ้าลาดเอียง สวยอลังการสมคำล่ำลือ…ทิวทัศน์บนทุ่งหญ้าราบเลียบบนภูเขา ที่ได้ขึ้นชื่อว่ากว้าง ใหญ่ที่สุดในยุโรป ท่านจะได้สัมผัสความงดงามอันประหลาดมหัศจรรย์ของดินแดนเทือกเขาโดโลไมท์ จากมุมสูง รอบด้าน ชมทัศนียภาพอันยิ่งใหญ่ของหุบเขา โตรกผา โดยมีเทือกเขา SASOLUNGO MOUNTAIN RANGE ที่ มีรูปทรงประหลาดยอดเขาแหลมชันเป็นจุดเด่นมีเส้นทางเดินลัดเลาะ สู่จุดชมวิวต่างๆ ให้ท่านมีเวลาเก็บภาพสวยๆ อันประทับใจก่อนท่านจะได้ตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศสุดที่จะบรรยาย อิสระให้ท่านเดินเล่น ถ่ายรูปตามอัธยาศัย

   จากนั้นนำท่านนั่งกระเช้ากลับ ลงสู่ด้านล่าง
*หมายเหตุ : การนั่งกระเช้าหากสภาพอากาศไม่อำนวยหรือมีเหตุขัดข้องไม่สามารถขึ้นได้ทางบรษิทัฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการงดให้นั่งกระเช้าเพื่อควาปลอดภัย


เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร


   จากนั้นนำท่าน อิสระเก็บภาพความประทับใจ ณ โบสถ์ซานตาแมคดาเรน่า (SANTA MADDALENA)โบสถ์ที่ถือ เป็นจุดชมวิวที่สวยและถ่ายรูปมากที่สุดในเขตอุทยานโดโลไมต์ มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมีฉากหลังเป็นเทือกเขาโอเดิล (ODLES)
*หมายเหตุ: การเดินขึ้นเนินระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร

 

ค่ำรับประทานอาหารค่ำ  ณ ภัตตาคาร
ที่พัก HOTEL BALZANO หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม 

   จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองอินน์สบรูค (INNSBRUCK) (130 กม.) เมืองหลวงแห่งแคว้นทีโรล ท่านจะได้เห็น ความแตกต่างที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวของวัฒนธรรมเก่าแก่นานกว่า 800 ปี… ชมเมืองอินน์สบรูค ที่ตั้งอยู่ในอ้อมกอดของเทือกเขาแอล์ปที่สูงเสียดฟ้า และมีหิมะปกคลุมอยู่ตลอดปีประทับใจไป กับบ้านเรือนที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ด้านสถาปัตยกรรมไว้ได้อย่างงดงามไม่ว่าจะเป็นซุ้มดอกไม้หรือไม้เลื้อยตาม ประตูบานหน้าต่าง ชมบ้านหลังคาทองค า ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ...ชมและเลือกซื้อผลึกแก้วเจียระไน อันเลื่องชื่อของสวารอฟสกี้เช่น เครื่องประดับบ้าน ชุดน้ำชา สร้อยคอ สร้อยข้อมือ ฯลฯ ที่มีให้ท่านได้ซื้อหาไว้เป็นที่ ระลึก

  นำท่านเดินทางสู่ เมืองฮอลสตัท (HALLSTATT) (260 กม.) เมืองมรดกโลกที่เก่าแก่ย้อนหลังกลับไปกว่า 4,000 ปี ช่วงที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในอดีตประมาณปี 800-400 ก่อนคริสตกาล และยังมีทิวทัศน์ที่สวยงามเป็นที่หลงใหลของนัก เดินทางมากมาย

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร


  จากนั้นนำท่านเดินเท้าเลาะริมทะเลสาบบนถนนเลียบทะเลสาบที่เรียกว่า“ซี สตราซ” (SEE STRASSE) ระยะทาง ประมาณ 300 เมตร อีกด้านมีร้านขายของที่ระลึก ที่ศิลปินพื้นบ้านออกแบบเองเป็นระยะสลับกับบ้านเรือนสไตล์ อัลไพน์ที่เก่าแก่ไม่ขาดสาย บ้างอยู่ระดับพื้นดิน บ้างอยู่บนหน้าผาลดหลั่นกันเป็นชั้นๆ และบ้านแต่ละหลังล้วน ประดับประดาด้วยของเก่า ดอกไม้หลากสีสันสวยงามปลายสุดของถนนซีสตราซ ท่านจะได้ชมจัตุรัสประจำเมืองซึ่ง เป็นลานหินขนาดย่อม ประดับด้วยน้ำพุกลางลานและอาคารบ้านเรือนที่สวยงาม

  จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองซาลบูร์ก (SALZBURG) (80 กม.) ประเทศออสเตรีย ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศใต้ของ สนามบินมิวนิค ประเทศเยอรมนี ซึ่งมีวิวทิวทัศน์สวยงามเป็นเอกลักษณ์ออสเตรีย เนินภูเขาหญ้า สลับทะเลสาบ ตลอดเส้นทาง เมื่อเราถึงเมืองซาลบูร์ก …. นำท่าน ถ่ายรูปสวนมิราแบล ซึ่งเป็นสวนสวยประจำเมืองสวนมิราเบลในฉากต้นๆของภาพยนตร์อมตะก้องโลก “เรื่องเดอะซาวด์ออฟมิวสิค” แม้เวลาผ่านไปเนิ่นนานมากแต่สวนแห่งนี้มิได้เปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด

  นำท่านชมเมืองซาลส์บวร์ก ที่มีชื่อเสียงในสถาปัตยกรรมบาร็อค ซึ่งได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะบริเวณ เมืองเก่า จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ในปี ค.ศ. 1997 ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำซาลซัค (Salzach) และมีอาณาเขตติดกับเทือกเขาแอลป์เป็นบ้านเกิดของคีตกวีเอกในศตวรรษที่ 18 นามว่า วูล์ฟกัง อามาเด อุส โมสาท ….นำท่านข้ามแม่น้ำซาลส์ซัค สู่ย่านเมืองเก่า และแวะเก็บบันทึกภาพปราสาทโฮเฮ็นซาลส์บวร์ก ที่ตั้งโดด เด่นอยู่บนเนินเหนือเมืองเก่า

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

  ออกเดินทางสู่ หมู่บ้านรามเซา (RAMSAU) (50 กม.) หมู่บ้านเล็กของเยอรมันที่ติดกับพรมแดนออสเตรียที่หลบ ซ่อนตัวในเขตเทือกเขาแอลป์มีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของความสวยงามของวิวทิวทัศน์ โดยมีโบสถ์เซนต์เซบา สเตียน(SEBATIAN) เป็นฉาก

   นำท่านเดินทางสู่ เมืองเบิร์ชเทสกาเด้น (BERCHTESGADEN) (10 กม.) เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีความสำคัญทางด้าน ประวัติศาสตร์ซึ่งสามารถย้อนกลับไปในช่วงปี 1102 โดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ทางตอนใต้ของภูมิภาคเส้นทางแสนสวย และยังเป็น เส้นทางเก่าแก่ที่สุดที่นักท่องเที่ยวนิยมใช้ เลาะเลียบเทือกเขาแอลป์ นำท่าน ชมวิวทะเลสาบกษัตริย์ (KONIGSEE) ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวมา ตั้งแต่ปี ค.ศ.1909 ที่มีน้ำใสราวกับมรกต ได้ขึ้นว่าเป็นทะเลสาบที่น้ำใสและสะอาดที่สุดในยุโรป ทะเลสาบแห่งนี้ เป็นดินแดนแห่งฟยอร์ดที่ งดงาม ที่สุดในประเทศเยอรมนี ในเขตเทือกเขาแอลป์ มีแหล่งก าเนิดจากการละลายของกลาเซียบนยอดเขา


เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร


   นำท่านเดินทางสู่ เมืองมิวนิค (MUNICH) (160 กม.) ที่สวยงามด้วยสถาปัตยกรรมในหลายรูปแบบ อย่างสวยงาม คลาสสิคหรือทันสมัย อาทิจัตุรัสมาเรียน (MARIEN PLATZ) ศูนย์รวมกิจกรรมนานาชนิดของชาวมิวนิค ถ่ายรูป คู่กับศาลากลางมิวนิค ที่สร้างเมื่อปีค.ศ.1867-1908 ซึ่งมีหอระฆังอันมีชื่อเสียงไปทั่วโลก ตั้งอยู่ตัวหอคอย มีความ สูงถึง 278 ฟุต ผ่านชมย่านสำคัญๆบนถนนแมกซิมิเลี่ยน สตราเซ่ที่ตั้งของโอเปร่าเฮ้าส์พิพิธภัณฑ์เรสซิเด้นท์

  นำท่านอิสระช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม ณ ถนนแมกซิมิเลียน (MAXIMILIANSTRAßE) ถนนช้อปปิ้งสินค้าแบนด์ เนมชื่อดัง


ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก LEONARDO HOTEL MUNICH CITY NORTH หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม


   นำท่านเดินออกเดินทางสู่ เมืองมิทเทนวัลด์ (MITTENWALD) (110 กม.) เมืองเล็กน่ารักในแคว้นบาวาเรียของ เยอรมนีกับออสเตรีย หมู่บ้านเล็กๆ ล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาแอลป์และได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหมู่บ้านติดอันดับความสวย ของเยอรมัน อิสระชมเมอืงสูดอากาศอันบริสุทธิ์และเดินเล่นนั่งจิบกาแฟ ชมวิวทิวทัศน์หรือเลือกสินค้าที่ระลึกตาม อัธยาศัย

  นำท่านเดินทางสู่ เมืองการ์มิสช์ ปาร์เทนไครเช่น (GARMISCH-PARTENKIRCHEN) (20 กม.) เป็นหนึ่งใน เมือง ที่สวยงามเป็นอันดับต้นๆ ของเยอรมนี เป็นเมืองเล็กๆ ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนกันบ้านเรือนตกแต่งด้วยสไตล์ บาวาเรียน มีภาพเขียนสีตกแต่งตามบ้านเรือนและถือเป็นประตูสู่ยอดเขาซุกสปิตเซ่ (ZUGSPITZE) จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ยอดเขาซุกสปิตเซ่ (ZUGSPITZE) ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเยอรมนีเก็บภาพประทับใจ จากจุดชมวิวบนยอดเขาที่สูงที่สุดใน เยอรมนีคือ 9,721 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล ที่ท าให้เกิดกิจกรรมการท่องเที่ยว ได้ทั้งปีคือ สกีในฤดูหนาวและเดินเขาในฤดูร้อน เมื่อมองจากยอดเขาจะเห็นทิวทัศน์งดงามกว้างไกลไปถึง 4 ประเทศด้วยกันคือ เยอรมนีออสเตรีย อิตาลีและสวิสเซอร์แลนด์โดยมียอดเขาที่อยู่เคียงกันอีก 3 ยอดคือ แอล์ปสปิตซ์ (ALPSPITZ), ครอยเซ็ค (KREUZECK) และแวงค์ (WANK) ซึ่งล้วนแต่เป็นสวรรค์ของนักเดินทาง และนักสกีทั้งสิ้น นิทรรศการศิลปะบนที่สูงที่สุดและซุกสปิตซ์ปลาต ธารน้ำแข็งสายเดียวของเยอรมนีที่ยามหิมะตกหนักระหว่างเดือนพฤศจิกายน-มิถุนายน กลายเป็นเส้นทางสกีให้เลือกเล่นหลายระดับ (47 ก.ม.)


เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนเขา 


  จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองฟุสเซ่น (FUSSEN) (70 กม.) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเยอรมัน เป็นเมืองเก่ามาตั้งแต่ครั้ง จักรวรรดิโรมัน ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามของตัวตึกรามบ้านช่องเพราะทั้งเมืองจะมีหลากสีสันมากเหมือนกับลูกกวาด สีสวยๆ ทั้งเมืองจนได้รับสมญานามว่า CITY OF CANDY 


ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก BEST WESTERN PLUS HOTEL หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

  นำท่านเดินทางสู่ปราสาทนอยชวานสไตน์(NEUSCHWANSTEIN CASTLE) โดยนั่งรถบัสท้องถิ่นขึ้นชม (ภายนอก) เป็นปราสาทตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์แถบแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี สร้างในสมัยพระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรีย ในช่วง ค.ศ. 1845-86


เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

   นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น (LUCERNE) (290 กม.) เมืองท่องเที่ยวอันดับ 1 ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์... นำท่านถ่ายรูปคู่กับ อนุสาวรีย์สิงโต (LION MONUMENT) ซึ่งแกะสลักอยู่บนหน้าผาของภูเขาในเมืองเป็น สัญลักษณ์ให้ระลึกถึงทหารรับจ้างชาวสวิสซึ่งทำงานเป็นทหารรักษาพระองค์พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 แห่งฝรั่งเศส

  นำท่าน เดินข้ามสะพานไม้ที่มีชื่อเสียงที่สุดของลูเซิร์น (KAPELLBRUCKE) ซึ่งเป็นสะพานไม้ที่มีหลังคาคลุมตลอดทอดตัว ข้ามแม่น่ำรุซซ์(REUSS) อายุเก่าแก่กว่า 400 ปีและยังเป็นสัญลักษณ์ของสวิส…อิสระให้ท่านช้อปปิ้งสินค้าชั้นนำของสวิสตามอัธยาศัย อาทิ นาฬิกาชั้นนำ ผ้าลูกไม้สวิส ช็อคโกแลต มีดพับวิคทอเรีย นาฬิกากุ๊กกูฯลฯ


ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก IBIS STYLE LUCERNE HOTEL หรือเทียบเท่า

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

  จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองแองเกิลเบิร์ก (ENGELBERG) เมืองเล็กๆ แสนสวยในหุบเขาที่อยู่ต้นทางของยอดเขา ทิตลิต … นั่งกระเช้าขึ้นสู่ ยอดเขาทิตลิต (TITLIS) โดยยอดเขามีความสูงถึง 3,238 เมตร หิมะปกคลุมตลอดทั้งปี ไม่ว่าท่านจะมาช่วงฤดูกาลไหนก็ตาม ท่านจะได้สัมผัสหิมะและยอดเขาเด่นคือ TITLIS ROTAIR กระเช้าไฟฟ้าหมุน ได้ 360 องศา แห่งแรกของโลกและบนยอดเขายังมีกิจกรรมลานสกีและ TITLIS CLIFF สะพานแขวนที่ตั้งอยู่สูง ที่สุดในยุโรปให้ท่านได้ลองเล่นกันอีกด้วย อิสระให้ทุกท่านเพลิดเพลินกับลานหิมะตามอัธยาศัย

เที่ยง  อิสระอาหารกลางวัน ตามอัธยาศัย 

   จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองซูริค (ZURICH) (90 กม.) อิสระให้ท่านช้อปปิ้งบริเวณถนน BAHNHOFSTRASSE ย่านช้อปปิ้งที่หรูหราที่สุดในเมืองซูริคและใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ ถนนสายนี้ไม่ใช่ถนนสายที่ดีที่สุดในสวิส อย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังเป็นถนนที่ดีที่สุดในยุโรปเลยทีเดียว เนื่องจากเป็นที่ตั้งของธนาคารใหญ่ๆ มากมาย ชมย่าน เมืองเก่าโบสถ์ใหญ่ประจำเมือง ที่มีความงดงามของศิลปะที่ผสมผสานกันระหว่างสวิส และเยอรมัน นำท่านชมความยิ่งใหญ่ และความสวยงามของ น้ำตกไรน์น้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป ให้ท่านได้ชื่นชมธรรมชาติ และถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก

  จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบินซูริค เพื่อเดินทางกลับสู่ประเทศไทย

22:15 น. (เวลาท้องถิ่น) ออกเดินทางกลับสู่ประเทศไทย โดย สายการบิน เอมิเรตส์เที่ยวบินที่ EK086/EK372

18:55 น. เวลาท้องถิ่น เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ